R a c i n g K I T …!!!
ผลิตภัณฑ์อิมพอร์ท...อัพ "ม้า" อัพ "รอบ"

     …ผม...ให้ "ของขวัญ" กับตัวเองสำหรับต้นศักราชใหม่ โดยเดินเข้าไปในร้าน "ของแต่งอิมพอร์ท" ที่กำลังทะลักเข้าเอาใจ "ขาซิ่ง" ที่เริ่มจะเปลี่ยนเทรนด์ขยับเข้าหาเรื่องความ แรง...ง...มันเป็นเรื่องของ "เด็กมือซน" ที่อยากอัพเกรดสมรรถนะรถล้อเล็กๆ ให้ก้าวผ่านวัตถุประสงค์การผลิตดั้งเดิม…"เรซซิ่งคิท" วัสดุสำเร็จรูปหลากหลายแบรนด์แพ็คห่อมาให้เปิดกินกันตามอัธยาศัย...ผมหยิบมาแบรนด์หนึ่ง...และ...ก็รีบกลับไปที่อู่...ทำการศัลยกรรมอัพ "ม้า"…อย่าง...ตื่นเต้น!!!

เริ่มกระบวนการชำแหละ :
1. เริ่ม...ศึกษาคู่มือที่แนบมาพร้อมอุปกรณ์หลากหลาย...จน...แจ่มแจ้ง เรารู้ว่าต้อง เปิดแคร็งค์ แยงโรตารี่ และ เปิดข้อเหวี่ยง ตามค่าที่กำหนดที่แจ้งมา
2. รื้อ...รื้อ...และ รื้อ เครื่องยนต์โรงงานออกอย่างที่เข้าใจว่า...เข้าขั้นผ่าเครื่อง!!!
3. ศัลยกรรมข้อเหวี่ยง (ตับเป็ดฝั่งใน) ตามค่าที่กำหนด (ในที่นี้คือ 20 มม./Pinasco PX125/ 150)
4. เปิดแคร็งค์ตามเสื้อสูบชุดใหม่...มาร์คเครื่องหมาย...แล้วเจียระไนจนเนียน!!!
5. แยง...ง...โรตารี่ ตามค่าที่กำหนด (ในที่นี้คือเปิดเพิ่ม 4 มม.ทั้ง 2 ด้าน/Pinasco PX125/ 150)
6. ประกอบ "คิท" ชุดใหม่ด้วยความประณีต และต้องมั่นใจว่าชิ้นส่วนทุกชิ้นสะอาดหมดจด ไร้ฝุ่นผง (ไหนๆ รื้อแล้ว เปลี่ยนลูกปืนข้อเหวี่ยง/ซีลต่างๆ ไปด้วยจะดีมาก)
7. ประกอบคิทเข้าที่!!!...ทีนี้ก็มาไล่ส่วนควบ ซึ่งหมายถึง คลัตช์ ชุดไฟ และ คาร์บูเรเตอร์
7.1 คลัตช์ : เพราะข้อเหวี่ยงที่ถูกตัดออก จึงได้รอบเหวี่ยงปลายที่จัดจ้านขึ้น คลัตช์เล็กโรงงานมักรับไม่ไหว (คลัตช์ลื่น) ต้องโดนคลัตช์ใหญ่ 3/4 แผ่น กับสปริงแข็งจึงจะแมตช์กัน
7.2 ชุดไฟ : ลองติดเครื่อง จะรู้ว่ามาร์คเดิมใช้ไม่ได้ ลองขยับ...จน...กว่าจะเข้าที่เข้าทาง (ควรอยู่ในความดูแลของช่างที่มีทักษะ)
7.3 คาร์บูเรเตอร์ : ตามแมน่วล "คิท" บอกให้เจาะกรองอากาศขนาด 5 มม. 1 รู...แต่นั่น!!! เซียนบอกเอาไม่อยู่ เครื่องยนต์ใหม่มันใหญ่ขึ้น เลยต้องกินส่วนผสมมากยิ่งขึ้น คาร์บิวฯขนาด 24 มม. (ของรุ่น PX200) จึงเข้ามาประจำการแทน...ติดเครื่อง!!!...แล้วลองไล่หาเบอร์ "นมหนูน้ำมัน" และ "นมหนูอากาศ" ที่เหมาะสม เพราะแต่ละคันมาก/น้อย แตกต่างกัน ซึ่งบทสรุปสำหรับคันนี้...ลงตัวที่ขนาดเบอร์ 110 และ 55/160
8. เมื่อคิดว่าทุกอย่าง...แมตช์!!! กันดีแล้ว คิดเครื่อง Run-in สัก 4 ชั่วโมง (ฝรั่งเค้าบอกงั้น) หรือขับเซฟๆ ในช่วง Run-in สัก 500-1,000 กม. (ขับไป จูนไป)....ก่อน...อัดแบบเต็มสมรรนะตามอัธยาศัย!!! (แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายของภาครัฐ)...แล้ว...คุณจะอุทานว่า...รู้งี้...ใส่ตั้งนานแล้ว...!?!?!

1. Pinasco kit : เมื่อตกลงปลงใจเลือกชุดคิทของ Pinasco แพ็คในกล่องโฟมแบบนี้ ซึ่งภายในประกอบด้วย เสื้อสูบ ฝาสูบ ลูกสูบขนาด 63 มม. แหวนลูกสูบ 2 ตัว สลักลูกสูบ กิ๊บล็อก และนอตล็อกฝาสูบเกลียวยาวอีก 4 ตัว และปะเก็นฝาสูบอะลูมิเนียมอีกตัว ทั้งชุด ราคา 9,000 บาท

2. Polini kit : แพ็คห่อในกล่องโฟมขนาดย่อมเยากว่า ประกอบด้วย เสื้อสูบ ฝาสูบ ลูกสูบขนาด 63 มม. เท่ากัน แหวนลูกสูบ 2 ตัว สลักลูกสูบ กิ๊บล็อก ชุดนี้ราคาย่อมเยากว่าเล็กน้อยที่ 8,000 บาท

CARBURETER : เพราะชิ้นส่วนหลักได้รับการขยายตามอัตราส่วน ตัวชงส่วนผสมก็ต้องขยายตาม ภาพแรกคือคาร์บูเรเตอร์ติดรถ PX150 ขนาด 20 มม. (SI20/20D) ที่ใช้มือชงน้ำมันเบอร์ 96 ส่วนอากาศใช้เบอร์ 45/140 ในขณะที่ตัวหลังเข้ามาแทนที่ด้วยขนาดใหม่ที่ 24 มม. (SI24/24E/ ขนาดที่ใช้กับรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 200 ซี.ซี.) ใช้นมหนูน้ำมันเบอร์ 116 และนมหนูอากาศเบอร์ 55/160








FILLTER : กรองอากาศถือเป็นส่วนควบที่มาพร้อมชุดจ่ายน้ำมัน ตามแมน่วลบอกให้ระเบิดรูเพิ่มอากาศเข้าขนาด 5 มม. อีก 1 รู แต่เราใจดีเลยแยงเพิ่มไปให้อีก 1 รู เพราะมีพื้นที่ข้างๆ เหลือ

CRANK : ขั้นตอนการตัดข้อเหวี่ยงนี่สำคัญมาก และต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญพอควร ในภาพหลังอัดข้อเหวี่ยงเอาเฉพาะฝั่งใน (ต้องใช้ไฮดรอลิกอัดออก เพื่อจะได้ทำงานได้สะดวกขึ้น) จัดการมาร์คตำแหน่งอ้างอิง ที่บอกว่าต้องเปิดออกถึง 20 มม....คราวนี้...ก็จัดการสังคายนาให้ได้เหลี่ยมมุมตามที่มาร์คไว้...นี่คือส่วนของข้อเหวี่ยง (ฝั่งใน) ที่ถูกเจียร์เนื้อออกไปแล้ว ซึ่งต่อจากนี้ไปมันจะกินเชื้อเพลิงได้มากขึ้น และสามารถเหวี่ยงรอบเครื่องยนต์ให้จัดขึ้น แต่นี่ก็อาจทำให้มันเสียเรื่องความสมดุลในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำไปบ้าง...ไม่ว่ากัน!!!

Engine1/2 : เปรียบเทียบเครื่องยนต์เดิมติดรถที่เป็นเหล็กหล่อทั้งชุด กับชุดเรซซิ่งคิทของ Pinasco ที่ระบายความร้อนดีกว่า เพราะเลือกใช้วัสดุอะลูมิเนียม มันดูทันสมัยและแรงกว่า...ทั้งๆ ที่ยังไม่ทันวิ่ง!!!

Number : ไขรหัสพันธุกรรมข้างกล่องชุดเรซซิ่งคิทของ Pinasco บอกว่านี่เป็นคิทสำหรับ Vespa PX เครื่องยนต์ขนาด 125/150 ซี.ซี. ที่หลังจากอัพเกรดจะได้ความจุใหม่ที่ 175 ซี.ซี. และรุ่นนี้ใช้วัสดุอะลูมิเนียมทั้งหมด ผลิตในล็อตของวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2004 ส่วนภาพถัดมา เป็น...คำเตือน!!!...บอกว่าผลิตภัณฑ์ของ Pinasco ชุดนี้สร้างขึ้นสำหรับการแข่งขันเท่านั้น ห้าม!!!...ใช้บนท้องถนน...ซึ่งเชื่อเหอะ!!!...ว่า...ไม่มีใครใส่ใจคำเตือนนี้แน่...ผมก็คนหนึ่งละ!!!

Piston Mark 1/4 : เปิดแคร็งค์!!!...เป็นอีกขั้นตอนที่ต้องเกิดขึ้นกับช่างที่มีทักษะเท่านั้น เพราะช่องพอร์ทของเสื้อสูบได้รับการขยาย แคร็งค์เดิมจึงต้องเปิดรับตามขนาด ทำได้โดยนำเสื้อสูบชุดใหม่สวมเข้าไป (ในภาพ) เราจะเห็นเนื้อที่ที่ต้องเจียร์ออก...ทำมาร์คไว้!!!...นี่คือส่วนที่เราจะต้องเปิดออก จัดการทำทั้ง 2 ฝั่ง (ด้านบน/ด้านล่าง) ซึ่งแต่ละสูตรโมฯ จะพิสดารผิดแผก เราเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างของ Pinasco กับ Polini (ในภาพ) เป็นเสื้อสูบของ Polini ที่ช่องพอร์ทนั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด Polini จะเปิดแคร็งค์เฉพาะด้านบนตามขวาง ในขณะที่ Pinasco เปิดตามยาวตรงลงมา...เอาเป็นว่าจำง่ายๆ...เปิดตามเสื้อสูบ...แล้วกัน!!!
ข้อสังเกต : สำหรับเสื้อสูบของ Polini ที่เปิดแคร็งค์ด้านบนตามขวางนั้น หากมือหนักไปอาจทำให้แคร็งค์ทะลุมาด้านหลังได้ (ในภาพ) คืออีกฟากฝั่งของแคร็งค์ใน เห็นรอยบุ๋ม 2 รูนั่นไหม...นั่นแหละที่ทำให้มันทะลุได้ง่ายๆ เพราะเนื้อที่หายไป ป้องกันไว้ก่อนด้วยการพอกอะลูมิเนียมเติมเนื้อให้เต็ม เสริมความแข็งแกร่งไว้ก่อน...จะชัวร์กว่า!!!


TOOL : ชุดหัวเจียร์พลังสูงขนาดต่างๆ มันเร็วก็จริง แต่ก็พลอยให้พลาด...ด...ได้ง่ายเหมือนกัน คงต้องใช้สมาธิมากหน่อย อย่าให้ใครมากวนตอนทำแล้วกัน เพราะเห็น...เจ๊ง!!!...มามากแล้ว ค่อยๆ ทำ ยิ่งตอนแยงเปิดช่องโรตารี ถ้าไม่เซียนก็ใช้ตะไบดีกว่า...ช้ากว่าแน่...แต่ชัวร์กว่าเยอะ!!!

WORK1/2 : ช่องโรตารี่สำหรับรับส่วนผสมน้ำมันจากคาร์บูเรเตอร์ สำหรับรุ่น PX150 นั้น มีขนาด 32 มม. แต่เมื่อใส่ชุดอัพเกรดของ Pinasco ตามสเป็กต้องแยงเปิดเพิ่มอีกข้างละ 4 มม. รวมเป็น 40 มม....มาร์คเครื่องหมายไว้...แล้วจ้วง...ง...ด้วยความระมัดระวัง (ควรปล่อยให้อยู่ในความดูแลของช่างที่มีทักษะจะเวิร์คกว่า ไม่งั้น...โรฯ ไม่รับ...แต่กลับ...บ้วนส่วนผสมทิ้ง...ไม่รู้ด้วย)
WORK3 : หัวเจียร์ความเร็วสูงสำหรับเปิดแคร็งค์ตามมาร์คของเสื้อสูบ...นี่เร็วจริง...แต่ก็พลาดได้ง่ายๆ ควรมีสมาธิแล้วปล่อยให้หัวเจียร์ค่อยกินเนื้ออะลูมิเนียม...ทีละนิด...ทีละนิด...!!!


PIPE : เรียกว่าอัพกันถึงขึ้นนี้แล้ว ไม่ใส่ "ท่อแต่ง" มันก็คงยังไงอยู่...ท่อระบายไอเสียนั้น มีมากมายหลานรุ่น หลายโมเดล ตั้งแต่ราคา 3 พันกว่า...ไป...จนถึง 3 หมื่นกว่า เลือกเอาตามเงินในกระเป๋า ส่วนแบรนด์ที่บ้านเราฮิตที่สุดก็เห็นจะเป็น Polini นี่แหละ...ด้วยสนนราคากลางที่ 5,500-6,000 บาท ก็ช่วยเสริมสมรรถนะให้เครื่องยนต์ โดยสรรพคุณจะโดดเด่นสุดๆ ก็ต้องที่รอบเครื่องยนต์ขนาดกลาง...ไป...ถึงสูงปรี๊ด ส่วนต้นๆ นั้น เมื่อเทียบกับท่อเดิมก็ดูจะเป็นรองด้วยซ้ำ (กราฟ DynoTest ของฝรั่งเค้า) ทว่า เมื่อทำงานร่วมกับเรซซิ่งคิทของเราก็การันตีได้ว่า...จัดจ้านขึ้นเยอะ...แถมยังสวยเด่นเตะตา!!!